อ.พร้าว ถึงนครซิดนีย์

เมื่อคืนแส...

อ.พร้าว ถึงนครซิดนีย์

เมื่อคืนแสดงที่ อ.พร้าว บรรยากาศน่ารักมากเลยครับ ได้ยินว่าจำหน่ายบัตรได้เกือบล้านบาท ซึ่งผู้จัดได้มอบเป็นการกุศลครับ

เท่าที่ทราบมาที่อ.พร้าวมีของดีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือข้าว ซึ่งเรื่องนี้ได้รับคำยืนยันจากรุ่นน้องของผมซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ว่า ครอบครัวของแกก็ทานแต่ข้าวของอ.พร้าว

ข้าวพร้าวดีอย่างไรหรือ?

ข้าวที่ไหนๆก็คล้ายกันหละครับ แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ ข้าวที่พร้าวไม่มีการฉีดสารพิษใดๆซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้การปลูกข้าวทั่วไปเค้าใช้สารพิษกันมากน้อยแค่ไหน คิดว่าจะน่าจะมีอีกหลายที่ๆไม่มีการใช้สารพิษอย่างอ.พร้าว หวังว่าอย่างนั้น

ไม่เพียงได้รับคำยืนยันจากรุ่นน้อง

ครั้งหนึ่งผมเคยคุยกับผู้บริหารระดับสูงทางการเกษตรท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็ยืนยันตรงกับรุ่นน้องของผมว่า ข้าวอ.พร้าวดีมากๆ ท่านใช้คำว่าดีที่สุดด้วยซํ้าไป ท่านยังเล่าที่มาของข้าวอ.พร้าวด้วยว่า เริ่มแรกชาวบ้านพร้าวเค้ารวมตัวกันปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารพิษไว้ทานกันเอง แต่ต่อมาการผลิตเริ่มได้ผลมากขึ้น จนเกินที่จะบริโภคกันเองจึงเริ่มมีการขายออกมาสู่วงนอก นี่จึงเป็นที่มาของสหกรณ์ค้าข้าวของอำเภอพร้าว เท่าที่ผมทราบมีก็มีเท่านี้หละครับ

ทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ผมจึงมักให้น้องคนขับรถไปซื้อข้าวที่สหกรณ์อ.พร้าวเพื่อมาฝากแม่ของผมและแม่ของภรรยากันครับ

เมื่อวันก่อนได้คุยกับนักดนตรีรุ่นพี่ที่ผมเคารพรักก็ยังคุยเรื่องข้าวพร้าวให้แกฟัง ซึ่งแกเองก็อยู่ที่เชียงใหม่แต่ยังไม่เคยทราบเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน จึงแนะนำให้แกซื้อมาทานครับ

ข้าวเป็นอาหารหลักของพวกเราคนไทย ทานกันตั้งแต่เด็กยันแก่ ดังนั้น ถ้าให้คนที่เรารักได้ทานข้าวที่ไม่มีสารพิษก็น่าจะเป็นสิ่งดีและน่าทำนะครับ

หากว่าที่อ.พร้าวทำอย่างนี้ได้ ผมคิดว่าที่อื่นๆก็คงมีทำกันบ้างเพียงแต่ผมไม่ทราบก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ผมก็อยากให้มีข้าวแบบนี้ออกมามากๆแต่ก็ไม่ทราบว่าจะไปเปลี่ยนแปลงวิถีการคิดและวิธีการผลิตของชาวบ้านอย่างไรได้ เอาแค่ไม่อยากให้เผายังทำไม่ได้เลย

ทราบมาว่าการทำนาที่ประเทศญี่ปุ่นเค้าเลิกวิธีการเผาไปนานแล้ว มีบ้างในบางประเทศที่เจริญแล้วอย่างออสเตรเลีย ที่ยังใช้การเผาแต่ไม่ใช่เพื่อการปลูกข้าว แต่เพื่อป้องกันไฟป่า ซึ่งเรามักจะได้ยินภัยพิบัติอย่างนี้จากประเทศนี้อยู่บ่อยครั้ง

วันนี้แปลนไว้ว่า แสดงเสร็จก็จะตีเข้ากรุงเทพฯเลย ก่อนแสดงจะแวะไปร้านกาแฟของรุ่นน้องของผมอีกคนครับ แกกลับมาจากการศึกษาที่ประเทศออสเตรเลียมาหลายปีแล้ว ผมและภรรยาไปรู้จักแกที่ประเทศที่ว่านี่แหละครับ

เมื่อครั้งที่ผมและภรรยาไปที่ นครซิดนีย์ แกเป็นคนดูแลเราสองคนครับ พาเที่ยวกันตั้งแต่เช้าจรดคํ่า ไม่ทราบว่าเบียร์กี่ยี่ห้อที่ผ่านลงคอเอามาเก็บไว้ในกระเพาะ ภรรยาผมมีความสุขมากๆ เพราะวันนั้นทั้งอากาศดี และเป็นวันหยุดจึงไม่ต้องห่วงเรื่องงานเช่นทุกวัน

วันนี้ผมคงทำอย่างวันนั้นไม่ได้แน่ๆ เพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุด ขืนซ่ามากไป อาจโดนใบแดง เพราะมาเชียงใหม่ทีไร ลิ้นไก่ไม่ค่อยสามัคคีเท่าที่ควร แต่ผมก็มักจะยืนยันกับภรรยาว่า “พี่ยังไม่เมาววววววววว” อึ๊ก (เสียงสะอึกน่ะครับ)

พฤ.8 เวลา ยังไม่แน่นอน แสดงที่ สนามกีฬากลางจอมทอง เชียงใหม่

ติดตามได้ที่ facebook Lek Carabao Solo
อัพเดททุกวัน
#เล็กคาราบาว #LekCarabaoSolo

---